สำนักงานที่ดินพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สงขลา/ปัตตานี /ยะลา /นราธิวาส มั่นใจรัฐบาลต่ออายุมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ลดค่าโอน เหลือ 0.01 % จดจำนอง 0.01% ภาษีเฉพาะ เหลือ 0.11% ซื้อบ้านที่ดินพื้นที่เสี่ยง ต่อเนื่องหลังหมดอายุสิ้นปี 2554 ด้านราคาประเมินไม่ขยับ ใช้ราคาเดิมมา 8 ปี นางสุจิรา อาแว เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดปัตตานี เปิดเผย”ฐานเศรษฐกิจ”ว่า จากเหตุความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้แก่ จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ที่ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและลุกลามไปถึงจังหวัดสงขลาซึ่งเป็นรอยต่อ ส่งผลให้ การซื้อ-ขายที่ดิน ชะลอตัวหรือแทบไม่มีเกิดขึ้นเลยในแต่ละวัน โดยเฉพาะการลงทุนจากนักลงทุนต่างถิ่น และนายทุนจากต่างประเทศมักไม่กล้าที่จะเดินทางเข้ามา รวมถึงประชาชนบางส่วนต่างอพยพไปซื้อที่ดินและบ้านยังพื้นที่อื่น อย่าง ภาคใต้ตอนบนและภาคอีสาน ” ที่ผ่านมา รัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นการซื้อขายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนใต้อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การลดหย่อนค่าโอนจาก 2% เหลือ 0.01 % ค่าจดจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% ภาษีธุรกิจเฉพาะจาก 3.3% เหลือ 0.11% ซึ่งช่วยจูงใจโดยเฉพาะการซื้อ-ขายบ้านเพื่ออยู่อาศัยของคนในพื้นที่ที่ไม่ปกติสุข ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะหมดอายุลงวันที่ 31 ธันวาคม 2554 และ วันที่ 1 มกราคม 2555 จะต้องกลับไปใช้อัตราค่าธรรมเนียมตามปกติ แต่เชื่อว่า รัฐบาล จะต่ออายุมาตรการนี้อย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์ชายแดนใต้จะสงบสุข หรืออยู่ในสภาพที่ดีขึ้น” ทั้งนี้เพราะที่ผ่านมาใน 4 จังหวัดชายแดนใต้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง มีโครงการบ้านจัดสรรเกิดขึ้น แต่ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการขนาดเล็ก ผู้ประกอบการเป็นคนในพื้นที่ แต่การพัฒนาจะมีไม่มาก เพราะผู้ประกอบการไม่กล้าลงทุน ส่วนการเดินทางเข้ามาติดต่อสำนักงานที่ดินจังหวัดปัตตานี ส่วนใหญ่จะมีลักษณะมรดกพ่อแม่โอนให้ลูก และมีการซื้อ-ขายเปลี่ยนมือบ้าง ซึ่งแต่ละวันอยู่ที่ 50 ราย นอกจากนี้ เมื่อการซื้อขายนิ่งสนิท ราคาที่ดินก็ไม่ขยับ เพราะเป็นพื้นที่เสี่ยงอันตราย ส่งผลให้ราคาประเมินที่ดินของกรมธนารักษ์ให้คงยืนราคาประเมินเดิมมาแล้ว 8 ปี ได้แก่ บัญชีประเมินราคาทุนทรัพย์ที่ดิน ฉบับปี 2547-2550 และฉบับปี 2551-2554 ซึ่งประกาศใช้คราวละ 4 ปี และเชื่อว่าฉบับใหม่ ที่จะประกาศใช้ 1 มกราคม 2555 -2558 จะยังคงยืนราคาเดิมอย่างต่อเนื่อง เพราะปัญหายังรุนแรงและการซื้อขายยังไม่กระเตื้องขึ้น โดยเฉพาะราคาที่ดินในเขตเมืองเฉลี่ย 10,000บาทต่อตารางวา ในพื้นที่ชนบท 1,000-1,500 บาทต่อตารางวา เป็นต้น อย่างไรก็ดีอันที่จริงแล้ว ราคาที่ดินจะต้องปรับลดลง แต่กรมธนารักษ์มองว่า หากมีการปรับลดจะเกิดปัญหากระทบต่อประชาชนเจ้าของที่ดินและยิ่งซ้ำเติมเศรษฐกิจโดยรวมในพื้นที่ ขณะเดียวกันผลกระทบทางด้านผู้รับเหมาเข้าไปก่อสร้างทางในชนบท และพื้นที่ค่อนข้างเข้าไปอย่างยากลำบาก เนื่องจาก มีการลอบยิงทำร้ายหวังทำลายชีวิต แม้ภาครัฐจะเปิดประมูลถนน หรือฝายกั้นน้ำก็มีปัญหารับเหมาไม่เข้าแข่งขันประมูลงานเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยส่งผลให้สาธารณูปโภค-บริการสาธารณะของรัฐที่จะอำนวยความสะดวกสบายให้กับประชาชนในพื้นที่กลับยังไม่ได้ดำเนินการแม้จะได้รับงบประมาณในแต่ละปีมาแล้วก็ตาม ซึ่งตัวอย่างที่ผ่านมา มีกลุ่มโจรก่อการร้ายใต้เผารถแม็คโคร เครื่องมือ ตลอดจน ไซต์งานก่อสร้าง เป็นต้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,605 30 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
ขายบ้าน, ขายที่ดิน, ขายคอนโด, อสังหริมทรัพย์, นายหน้าขายบ้าน, นายหน้า, ตัวแทน, ขายบ้านมือสอง, ขายคอนโดมือสอง, Real estate, es